วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

เทคนิคการถ่ายภาพ


 

  เทคนิคการถ่ายภาพ : องค์ประกอบ และ มุมมอง สวยๆ

     เทคนิคพื้นฐานที่ควรศึกษาสำหรับมือกล้องที่ชอบในการถ่ายรูป  เพราะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปนั้น  การถ่ายรูปนั้นถือว่าเป็นการ"บันทึกความทรงจำ"ที่ดีที่สุด ฉะนั้นความทรงจำที่เราบันทึกด้วยภาพ  จะต้องถ่ายออกมาจากความรู้สึกและเทคนิคพื้นฐานที่ทำให้ภาพสวย มีมุมมองที่แปลกใหม เราจึงอยากจะแนะนำเทคนิคพื้นฐานให้อ่าน  เพราะจะช่วยให้เรามีรูปสวยได้อย่างรวดเร็ว

เทคนิคพื้นฐานที่ควรศึกษา ได้แก่ จุดตัดเก้าช่อง กฏสามส่วน และเส้นนำสายตา

1. เทคนิคการถ่ายภาพ : องค์ประกอบ และ มุมมอง สวยๆ:จุดตัดเก้าช่อง

     จุดตัดเก้าช่อง เป็นการลากเส้นสองเส้น แนวตั้งและแนวนอนตัดกันที่ระยะเท่าๆ กัน ก็จะได้จุดตัดมา 4 จุด และช่องทั้งหมด "9" ช่อง  มองเป็นจุด เราจะได้มา 4 จุดให้พยายามถ่ายรูปให้จุดเด่นของเราอยู่ที่จุดตัด 4 จุด ให้ประมาณเอาตามความเหมาะสมของภาพ



จะเห็นว่าถ้าเราถ่ายรูปให้จุดเด่นของรูป อยู่ไกล้จุดตัด 4 จุดรูปของเราจะดูดีขึ้นมาก

การวางฟักทองไว้ไกลกับจุดตัดซ้ายล่างแค่นั้น หากวางไว้กลางๆ รูปก็จะดูธรรมดาๆ งั้นๆ ดูไม่แปลก


ลองดูแนวตั้งกันบ้าง  รูปนี้วางตาของนกไว้ที่จุดขวาบน และตัวนกอยู่ขวาล่าง


วางตัวกระรอกไว้จุดซ้ายบน

2. เทคนิคการถ่ายภาพ : องค์ประกอบ และ มุมมอง สวยๆ : กฎสามส่วน

      ที่มาที่ไปของกฎนี้ ก็มาจากการลากเส้นแบ่งช่องออกเป็น 9 ช่อง จนได้จุดตัดมา 4 จุด  ใช้กฎสามส่วนนี้ในการถ่ายรูปที่มีท้องฟ้า,พื้นดิน, หรือน้ำ รูปถ่ายจะออกมาสวยเมื่อเราเลือกอัตราส่วนของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็น 2:1 การถ่าย 1:1 ก็คือแบ่งครึ่งๆ กลางรูปภาพ เหมือนกระดาษพับครึ่งใบ

          2:1 ก็หมายถึง เช่น ให้ฟ้าเป็น 2 ส่วน พื้นดิน 1 ส่วน จากทั้งหมด 3 ส่วน ที่เราได้แบ่งเอาไว้ เท่านี้เองเอาแค่ใกล้เคียงก็ได้ ไม่ต้องถึงกับตรงเป๊ะ ขึ้นอยู่กับความลงตัวของรูปและที่สำคัญสำหรับคือ เส้นท้องฟ้าจะต้องตรงขนานกับพื้น(เว้นแต่จะเจตนาเอียง สำหรับมุมมองแปลกๆ)

         จากภาพตัวอย่าง จะให้ท้องฟ้า 2 ส่วน ดิน 1 ส่วนจะทำให้เราได้เห็นท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ รูปดูมีน้ำหนักดีบวกกับวางต้นไม้ตายดำๆ ไว้ที่จุดตัดด้านซ้ายล่าง ก็จะทำให้เป็น 2 กฎในรูปเดียวเพิ่มพลังความสวยกันเข้าไปได้อีก

      

รูปนี้ให้ตรงกันข้ามคือ ฟ้า 1 ส่วน ดิน 2 ส่วนเพราะต้องการโชว์ทุ่งด้านล่าง





     การที่เราจะเลือกฟ้าหรือดิน/น้ำ ให้ใครมากกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราจะโชว์ถ้าฟ้าสวย เมฆสวย เราให้ฟ้าไปเลย 2 ดิน 1 แต่ถ้าโชว์พื้นดิน แปลงดอกไม้ สถานที่ ตึก สวยๆ ก็ลดฟ้าลง เป็นดิน 2 ฟ้า 1 จะใช้กฎนี้เสมอ เมื่อมีท้องฟ้ารวมอยู่ในภาพ และที่ขาดไม่ได้ คือรวมกับจุดตัดเก้าช่องเสมอวางตัวปราสาทไว้ทางจุดตัดซ้ายทั้ง 2 จุด

 

3. เทคนิคการถ่ายภาพ : องค์ประกอบ และ มุมมอง สวยๆ : เส้นนำสายตา

     เส้นนำสายตา คือ การที่เราพยายามหาวัตถุอะไรก็ได้มาดึงจุดสนใจให้รูปของเรา เส้นนี้จะช่วยให้รูปดูมีมิติ หลายคนดูรูปแล้วรู้สึกว่ารูปแบนๆ ไม่มีความลึกก็เพราะขาดสิ่งนี้ สิ่งที่เรียกว่าเส้นนำสายตา...
     หลายครั้งเส้นนำสายตา ไม่จำเป็นต้องเป็น "เส้น" จะเป็นอะไรก็ได้ที่พา+ดึงดูดสายตาของคนดูรูป ให้มองตามไป บางครั้งอาจจะเป็นของที่วางเรียงกันเป็นเส้น อาจจะเป็นเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้าเป็นแนวหาดทราย ลำแสงดวงอาทิตย์ ควัน หมอก หรือแม้แต่...สายตา ก็นำสายตาได้รูปนี้ใช้แสดงให้เห็นว่าหลักการมองเส้นนำสายตาหมายถึง มองเห็นว่ามีเส้นในรูปนั่นเอง"""




ตัวอย่างเช่นภาพข้างล่าง  เราจะเห็นเส้นถนนพุ่งเข้าไปในภาพ  แค่นี้ก็ทำให้ภาพมีมิติ มีความลึกนำสายตาให้พุ่งเข้าไปหา ภูเขาและหลวงพ่อขาวและเมื่อรวม "ทุกกฎ" เข้าด้วยกัน...ก็จะได้รูปที่ดูสวย สบายตา
กฎจุดตัดเก้าช่อง : วางหลวงพ่อขาวไว้ไกล้จุดตัดซ้ายบน สุดถนนที่ซ้ายล่าง
กฎสามส่วน : ภูเขาท้องฟ้า 2 ส่วน ถนนพื้นดิน 1 ส่วน
มีเส้นนำสายตา พุ่งเข้าหาจุดตัด



การใช้ช่องประตูหินโบราณ สร้างเส้นนำสายตาไปหาจุดตัดซ้ายบน (ความจริงจะพุ่งไปที่จุดตัดไหนก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม)


ใช้ร่มและถนนนำสายตา แบ่งฟ้าสองส่วน ดินหนึ่งส่วน เส้นนำสายตาพุ่งเข้าหาจุดตัดซ้ายล่าง




เห็นถนนเป็นไม่ได้ ควรต้องหยิบมาวางไว้ เพื่อสร้างมิติให้ภาพเสมอดินสองส่วน ฟ้า 1 ส่วน วางอุปกรณ์จักรสานไว้ที่จุดตัดขวาล่าง...และเส้นนำสายตาพุ่งเข้าหาจุดซ้ายบน



บางครั้ง สายตา...ก็นำสายตาด้วยกันเองได้ อย่างเช่นสายตาของเด็กมองไปที่จุดตัดซ้ายบน ก็คือจุดที่ของเล่นอยู่ตรงนั้น



นอกจากเทคนิคพื้นฐาน 3 อย่างที่แนะนำไปแล้วนั้น ยังมีเทคนิคอื่นๆ อีก เช่น

มุมกล้องกับช่องว่าง


ช่องว่าง 
     การจัดองค์ประกอบภาพ หากจัดให้จุดเด่นอยู่ตรงกึ่งกลางภาพทุกรูปภาพที่ออกมาก็จะดูน่าเบื่อ 
ไม่มีมุมมองที่หลากหลาย และโอกาสที่จะได้ภาพที่แปลกใหม่ก็แทบจะไม่มีเลย  การกำหนดช่องว่าง
ภายในเฟรม จึงมีส่วนช่วยให้ภาพดูเหมะสม มีความหมาย และก่อให้เกิดความรู้สึกมากยิ่งขึ้น เช่น หากเรากำลังถ่ายรูปวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากเราจัดให้มีการเว้นช่องว่างในทิศทางที่วัตถุหัน
หรือเคลื่อนที่ไปนั้น ภาพที่ออกมาก็จะถูกคาดหมายว่าวัตถุกำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่เว้นว่างไว้ 
เช่น ภาพของการเคลื่อนที่ของรถยนต์ การแข่งม้า การขี่จักรยาน


ตัวอย่าง การเว้นช่องว่างเพื่อให้เกิดความรู้สึกเคลื่อนไหวไปข้างหน้า


มุมกล้อง

นอกจากช่องว่างจะมีผลต่อความรู้สึกของภาพถ่ายแล้ว การถ่ายภาพในมุมที่ต่างกัน ยังมีผลต่อความ
คิดความรู้สึกที่จะสื่อความหมายไปยังผู้ดูได้ เราอาจแบ่งมุมกล้องได้เป็น 3 ระดับ คือ

1. ภาพระดับสายตา คือ การถ่ายภาพในตำแหน่งที่อยู่ในระดับสายตาปรกติที่เรามองเห็น ขนานกับ
พื้นดิน ภาพที่จะได้จะให้ความรู้สึกเป็นปรกติธรรมดา 
ภาพตัวอย่าง การถ่ายภาพในมุมมองปรกติ

2.ภาพมุมต่ำการถ่ายภาพในมุมต่ำ คือ การถ่ายในต่ำแหน่งที่ต่ำกว่าวัตถุ จะให้ความรู้สึกถึงความ
สูงใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าความเป็นจริง แสดงถึงความสง่า

ภาพตัวอย่าง การถ่ายภาพในมุมต่ำ

3. การถ่ายภาพมุมสูง คือ การตั้งกล้องถ่ายในต่ำแหน่งที่สูงกว่าวัตถุ ภาพที่ได้จะให้ความรู้สึกถึง
ความเล็กความต้อยต่ำ ไม่มีความสำคัญ


ภาพตัวอย่าง การถ่ายรูปในมุมสูง